ประวัติและความเป็นมาของเรา
ประวัติและความเป็นมาของเรา
กว่า 100 ปี แล้วที่เรื่องราวของแบรนด์ฟอร์ไมก้ายังคงเป็นหนึ่งในตำนานการค้นพบทางนวัตกรรม ฟอร์ไมก้าเป็นแบรนด์อันโดดเด่นที่ถูกเชื่อมโยงกับนวัตกรรมการผลิตแผ่นลามิเนตอัดแรงดันสูง (HPL) มาแต่แรกเริ่ม
ปี 1913-1927 ยุคแห่งลามิเนต
สองวิศวกรไฟฟ้าผู้ก่อตั้งของเรา Daniel J. O’Conor และ Herbert A. Faber ได้ค้นพบว่าพลาสติกเรซินอัดแรงดันสูงสามารถนำมาใช้ผลิตเป็นชิ้นส่วนของวงจรไฟฟ้าได้ ด้วยการแทนที่แร่ไมก้า และได้ก่อตั้งบริษัท Formica Products ในปี 1913 ซึ่งชื่อ Formica ในภาษาอังกฤษเกิดจากการรวมคำว่า "for" และ "mica" ที่สื่อถึงการค้นหาวัสดุทดแทนในการทำฉนวน ซึ่งก็คือแร่ไมก้านั่นเอง
ก่อนปี 1930 บริษัทเริ่มเปลี่ยนแนวทางจากอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสู่ผลิตภัณฑ์แผ่นลามิเนตตกแต่งพื้นผิว
ปี 1931-1949 เป้าหมายใหม่
แผ่นลามิเนตจากแบรนด์ฟอร์ไมก้ากลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับการตกแต่งภายในคาเฟ่และไนท์คลับ รวมไปถึงรถรางและเรือสำราญสุดหรูอย่างเรือ RMS Queen Mary ด้วยคุณสมบัติทนทาน กันไฟจากบุหรี่ และสีสันสดใส จนเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัท Formica Insulation ตั้งเป้าไปที่การผลิตยุทโธปกรณ์จนสิ้นสุดสงครามโลก
ปี 1950-1958 ยุครุ่งเรืองหลังสงคราม
ระหว่างยุครุ่งเรืองหลังสงคราม ยอดขายของแผ่นลามิเนตจากแบรนด์ฟอร์ไมก้ามีมูลค่าสูงถึง 24 ล้านดอลลาร์ และบริษัทได้ทำการโฆษณาลวดลายอันเป็นตำนานอย่าง "Skylark" ของ Brooks Steven อย่างแข็งขัน Raymond Loewy Associates ได้สร้างสรรค์กลุ่มผลิตภัณฑ์ "Sunrise" ของบริษัทเอง และลวดลายสุดคลาสสิค "VirrVarr" ผลงานของเจ้าชายซิกวาร์ด เบอร์นาดอตแห่งสวีเดน
ปี 1960-1983 การออกแบบและนวัตกรรม
ลามิเนตจากแบรนด์ฟอร์ไมก้ากลายเป็นสัญลักษณ์ของการใช้ชีวิตอันทันสมัย และทางบริษัทได้เริ่มปรากฏตัวในระดับโลก ฟอร์ไมก้า คอร์ปอเรชั่น ยังคงให้ความสำคัญกับการออกแบบ ด้วยการก่อตั้งคณะทำงานแนะนำด้านการออกแบบ และได้จัดงาน "Surface and Ornament" (พื้นผิวและเครื่องตกแต่ง) ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงงานศิลปะของลามิเนต ColorCore® ซึ่งเปิดตัวครั้งแรก ณ สถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก
ปี 1985-1999 ความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย
ฟอร์ไมก้า คอร์ปอเรชั่น มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำบริหารหลายครั้งในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนซึ่งสะท้อนผ่านสภาวะเศรษฐกิจในยุคปี 1980 และปี 1990 ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทยังคงขยายตัวสู่ตลาดต่างประเทศและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งสีสัน ลวดลายและผิวสัมผัสใหม่ที่พุ่งเป้าไปทั้งตลาดที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์
ปี 2000-2012 ศตวรรษใหม่แห่งการเติบโต
ปี 2007 Fletcher Building ได้เข้าซื้อฟอร์ไมก้า กรุ๊ป ฝั่งเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ การรวมตัวกับแบรนด์ Laminex® ที่อยู่ในเครือ Fletcher ทำให้ฟอร์ไมก้า คอร์ปอเรชั่น กลายเป็นผู้ประกอบการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอุตสาหกรรมนี้ นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จในการเป็นองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
ปี 2013 แบรนด์ Formica® เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี!
ปี 2019 Broadview Holding ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศเนเธอร์แลนด์และมีบทบาทสำคัญในด้านเทคโนโลยีวัสดุและพลังงาน ได้เข้าซื้อฟอร์ไมก้า กรุ๊ป
Broadview Holding ยังเป็นเจ้าของ Trespa (ผู้นำระดับโลกด้านแคลดดิ้งลามิเนตอัดแรงดันสูงสำหรับตกแต่งภายนอกอาคาร) Arpa (มีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ล้ำนวัตกรรมชื่อว่า FENIX) และ Westag (ผู้ผลิตประตู ส่วนประกอบ และวัสดุตกแต่งพื้นผิวซึ่งมีความต้องการสูงในประเทศเยอรมนี) การเข้าถือสิทธิ์ในครั้งนี้ Broadview และฟอร์ไมก้า กรุ๊ป ได้ผนึกกำลังร่วมกันในฐานะผู้นำระดับโลกด้านวัสดุตกแต่งพื้นผิว